Ever After High
โรงเรียนสำหรับลูกๆตัวละครในเทพนิยาย
บล็อกนี้จะรวบรวมข้อมูลต่างๆของเรื่องในแบบภาษาไทยพวกเราได้แปลกันเอง
อย่างไรก็ตามเราอนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อ โดยวิธีการนำลิ้งค์ไปเผยแพร่เท่านั้น มิให้ทำการคิดลอกนำไปทำซ้ำ

ทีมงานจะได้มีกำลังใจทำกันต่อไปค่ะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม กดไลค์เพื่อติดตามข่าวสารก่อนใครได้เลยนะคะ

5/7/59

Madeline Hatter's Diary - Chapter 5

               ฉันตื่นขึ้นเพราะเสียงเคาะ ฉันเคาะกลับไป พร้อมไม่พร้อม ฉันไปละนะ!” ฉันตามเสียงเคาะกลับไปยังห้องสมุด นี่ต้องเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่ฮันเซลและเกรเทลเดินตามเศษขนมปังแน่
               I awoke to the sound of knocking. I knocked back "Ready or not, here I come!" I followed the knocking back to the library. This must be how Hansel and Gretel felt following the breadcrumbs!

               เมื่อฉันเดินผ่านห้องทำงาน ฉันชนกับกำแพงเข้า แต่มันเป็นกำแพงที่มีประตูลับ! ฉันเคาะ ฉันเจอเธอแล้วนะ ให้ฉันเข้าไปได้แล้ว
               When I went past the back office, I hit a wall. But it was a secret door wall! I knocked, "I found you, now let me in."

               ดั่งสายฟ้า ฉันเดินทางจากห้องสมุดของโรงเรียนไปยังเขาวงกตที่มีแต่หนังสือเก่าๆฝุ่นเกาะ ในเสียงเคาะดังขึ้นมาก จากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง ฉันหมุนไปวนมา จนสุดท้ายก็ไปอยู่ในห้องๆหนึ่งที่หนังสือถูกวางอย่างกระจัดกระจาย และชายแก่ไว้เคราคนหนึ่งนั่วอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา และลองจินตนาการดูสิว่าฉันตกใจขนาดไหนตอนที่เขาพูดออกมาเป็นภาษาปริศนา
               With a FLASH, I went from the school library to a maze filled with dusty old books. The knocking was much louder in here. Hallway after hallway, I twisted, wound and rounded, until finally I walked into an office with books scattered all over, and a bearded old man knocking on his desk. And imagine my surprise when he spoke Riddlish!

ตบสองทีทำให้คัน จนแปรปรวนและตึงตัง
*แปล: ดีใจจริงๆเลย ในที่สุดก็มีคนได้ยินเสียงเคาะเรียกของฉัน
"Tapping two-ways trickle down, unto too fickle upside frown!"
*Translation: "I'm so happy! Someone finally heard my knocking call!"

ฉันยิ้ม อัศวินขาว แสงอรุณ สถานที่ ใบหน้า ฉันมีไหม
*แปล: สวัสดีค่ะ คุณชื่ออะไรคะ
I grinned, "White knight, sunshine; a place, a face, I have mine?"
*Translation: "Hello, what's your name?"

บนยอดมงกุฎ เสียงนกหวีดและสายน้ำ หนังสือแสนเศร้าแต่ไม่เพียงฝันไป
*แปล: อ่า เธอต้องเป็นลูกสาวของแมดแฮทเตอร์แน่ๆ! ฉันเป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ ไจล์ส กริมม์
"Atop a crown, a whistle, steam! A book so sad but does not dream!"
*Translation: "Ah, you must be the daughter of the Mad Hatter! I'm the Master Librarian, Giles Grimm."

               บรรณารักษ์กริมม์ถูกสาปด้วยมนต์คำพูด และถูกขังอยู่ในห้องของเทพนิยายที่หายไป ตอนนี้เขากำลังตามหามนต์ที่จะคลายคำสาปของเขา มันทำให้ฉันคิดได้...ราเวนรู้เรื่องเวทย์มนต์นี่! ฉันบอกเขา แต่เขาดูกังวลมาก คนส่วนใหญ่ก็กังวล เธอคงคิดว่าลูกสาวของอีวิลควีนคงจะเก่งเรื่องเวทย์มนต์ แต่มนต์ของเธอมักจะให้ผลตรงกันข้าม และผู้คนก็มักคิดว่าเธอร้ายเพียงเพราะรู้ว่าแม่ของเธอเป็นใคร
               Librarian Grimm was cursed with a babble spell and locked in the Vault of Lost Tales. Now he's searching for the spell to break the curse. Then it dawned on me... Raven knows about spells! I told him, but he looked worried. Most people do. You'd think the daughter of the Evil Queen would be good at magic, but her spells usually backfire. That, and people assume she's mean just because of who her mom is.

               เธอนิสัยดีมากเลยนะคะ ฉันบอกเขาไป เธอไม่อยากจะเป็นอีวิลควีนเลยด้วยซ้ำ
               "She's really nice," I reassured him, "She doesn't even want to be the Evil Queen."

               ทันใดนั้น บรรณารักษ์กริมม์ก็ลุกขึ้นออกจากเก้าอี้ของเขาทันทีและบอกว่าฉันต้องพาราเวนมาเจอเขา เขามีเร่องที่ต้องบอกเธอ
               Suddenly Librarian Grimm shot out of his chair, and said that I must bring Raven to him. He had something to tell her.







Madeline Hatter's Diary - Chapter 6

              ฉันหาราเวนไปทั่ว จนในทีสุด เมื่อไม่มีที่ให้หาแล้ว ฉันก็กลับไปที่ห้องสมุด และเธออยู่นั่น! โชคดีจริงๆ ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง แต่เธอไม่เข้าใจ อาจเป็นเพราะฉันพูดภาษาปริศนาอีกแล้ว ฉันจึงพาเธอไปยังห้องของเทพนิยายที่หายไป
              I searched all over for Raven. Finally, when there was nowhere else to look, I went back to the library, and there she was! What luck! I tried to tell her what happened, but she couldn't understand. Maybe I was speaking Riddlish again. So, I just took her to the Vault of Lost Tales.

เมื่อฉันพาเธอไปหาบรรณารักษ์กริมม์ เขาปิดหนังสือที่เขาอ่านอยู่อย่างดัง
              When I brought her to Librarian Grimm, he slammed the book he was reading.

กลับกลอกแล้วขัดสนิม กำจัดออกไปให้กลายเป็นผง
*แปล: น่าโมโหจริงๆ ฉันตามหามนต์บทนั้นมานานแค่ไหนแล้วนะ
"Flipping flapjacks ripping rust! Cutting corners dawn to dust!"
*Translation: "I'm frustrated! How long until I find the spell I need?"

ฉันเข้าไปหาเขา เกือกม้า ใบโคลเวอร์ เท้ากระต่าย ขนนก เพื่อน เราจงแบ่งปัน
*แปล: คุณโชคดีแล้ว ฉันและราเวนจะช่วยคุณเอง
I approached him. "Horsehoes, clovers, rabbits feet! Feathers, friends, we share a seat!"
*Translation: "Lucky for you, Raven and I are here to help you."

              ภาษาคำทายต่อไปนั้นยุ่งเหยิงไปหมด แต่เมื่อเขาชี้มาทางราเวน ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเขาหมายถึง ฟังนะ ลูกสาวของอีวิลควีน โชคชะตานั้นเป็นปรัมปรา เมื่อเธอกล่าวขำสาบานในวันสาบานตนว่าจะเยนเรื่องราวของเธอเอง ทุกๆคนจะมีอิสระในการเลือกตอนจบที่แสนสุขของตัวเอง
              The next bit of Riddlish was a jumble. But when he pointed at Raven, I'm pretty sure he meant, "Listen, daughter of the Evil Queen. Destiny is a myth. If you pledge on Legacy Day to rewrite your own destiny, everyone will be free to choose their own Happily Ever After."

              ยอดไปเลย! มันเป็นสิ่งที่ราเวนอยากได้มาตลอด เธอไม่ต้องเป็นอีวิลควีน ไม่มีใครต้องเดินตามทางของพ่อแม่ตัวเอง แม้แต่ฉัน!
              Tea-riffic! It's everything Raven always wanted! She doesn't have to be the Evil Queen! Nobody had to follow their parents' stories! Not even me!

              เดี๋ยวนะ...แม้แต่ฉันเหรอ? ฉันรักที่จะเป็นแมดแฮทเตอร์คนต่อไปนะ ปาร์ตี้น้ำชา...เกมปริศนาคำทาย...ความสนุกของการคุยกับกระต่ายพูดได้...งั้นฉันไว้ค่อยกังวลทีหลังแล้วกัน ในที่สุดราเวนก็มีความหวัง และตอนนี้ เธอก็ต้องการตอนจบที่แสนสุข

              Wait a spell... not even me? I love that I get to be the next Mad Hatter. The tea parties... The riddle games... The fun with talking bunnies... Oh well, I'll worry about that later. Raven finally has hope. And right now, she needs a Happily Ever After.





Madeline Hatter's Diary - Chapter 3

              ฉันชอบเวลาเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น อย่างที่ฉันอยากให้คุณบรรณารักษ์มาช่วยแต่เธอกลับส่งเสียง ชู่วว ใส่ฉัน ฉันจึงได้แต่กรีดหนังสือ สารานุกรมมอนสเตอร์และประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านต่างๆและอสูรที่ทำลายมันเล่น แต่มันน่ารำคาญมากกว่าจะมีประโยชน์ และในตอนที่ฉันกำลังจะล้มเลิกความตั้งใจในการหา ฉันก็ได้ยินเสียงเคาะดังเข้ามา มีบางอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับมัน มันไม่ใช่เสียงเคาะที่บอกว่า นี่ๆ ฉันอยู่ที่ประตูแล้วนะ ไม่ มันฟังเหมือน หาฉันให้เจอ ถ้าทำได้ ฉันชอบ การเล่นซ่อนหา! และฉันก็ชอบมุกก๊อกๆด้วย นี่คือแพกเกจคู่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด! และตอนที่ฉันจะเริ่มออกไปหา คุณบรรณารักษ์ก็ไล่ฉันออกจากห้องสมุด ไม่มีปัญหา เจอกันพรุ่งนี้นะ ฉันเคาะตอบ

               I love when the unexpected happens! Like I expected the librarian to help, but all she did was "shush" me. So I flipped through the Encyclopedia of Monsters, and History of Villages & Beasts that Destroyed Them, but they were more disturbing than helpful. Right when I was going to give up, I heard a knocking coming from the distance. There was something familiar about it. It wasn't a knock that said "Hello, I'm at the door." No, it was more like "Find me, if you can." I LOVE hide-and-go-seek! I also love knock-knock jokes. This was two goodies wrapped into one! Just as I was about to start, the librarian kicked me out. No problem. "See you tomorrow," I knocked back.









Madeline Hatter's Diary - Chapter 2

              “แมดิลินน์ แฮทเตอร์ศาสตราจารย์รัมเพิลสติลส์กินส์ตะโกนเรียกชื่อฉันอย่างดัง ฉันมาเดินรวมกลุ่มทัวร์โรงเรียนกัลป์เพื่อนๆ ซีดาร์ บลอนดี้ และคิจจี้ ชาไชร์ คิตตี้ก็มาจากWonderlandด้วยนะ เธอ ยิ้มตลอดเวลา แม้ว่าเธอจะโมโหอยู่ก็เถอะ ซึ่งก็ดูจะเป็นอย่างนั้นตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะบอกคนอื่นอย่างไร คิตตี้และฉันก็เป็นพื่อนกัน โอ้แม่ทูนหัว นี่แมดดี้นี่ บอกฉันทีว่าฉันจะออกห่างเธอยังไง
              "MADELINE HATTER!" Professor Rumpelstiltskin loudly squeaked my name. I joined the tour group with my friends Cedar, Blondie and Kitty Cheshire. Kitty is from Wonderland too. She smiles all the time, even when she's annoyed, which seems to be all the time. Despite what she might tell people, Kitty and I are great friends. "Oh godmother. It's Maddie. Tell me, can I ever rid myself of you?"
*ย่อหน้านี้แอดมินแปลตามความหมายตรงๆเลยนะคะ ส่วนเรื่องการเล่นคำที่แมดดี้พูดถึงให้อ่านเป็นภาษาอังกฤษเอาค่ะ*

              ฉันชอบปริศนาของเธอจัง! มาดูสิ...เอาฉันออกไป...คิตตี้ชอบหานตัวเมื่อเธอเบื่อ เรื่องที่ น่าเบื่อ และทื่อและเธอพูดถึง ตัวฉัน เธอรู้ว่าฉันชอบปริศนา ใช่แล้วเธอ พูด ปริศนา ด้วยปริศนา! ฉันหมายถึง เธอพูดเป็นปริศนาด้วยปริศนา! ยอดมากคิตตี้
*จากประโยคภาษาอังกฤษ ‘rid dull’ จะอ่ายออกเสียงคล้ายกลับ ‘riddle’ที่แปลว่าปริศนาค่ะ*
              I love her riddles! Let's see... "rid myself"... Kitty vanishes when she gets bored. Things that are "boring" and "dull". And it's "of me". She knows I love riddles. That's it! "You 'rid dull' with riddles! I mean, you riddle with 'riddles'! Good one, Kitty!"

              ตอนแรกเธอก็ถอนหายใจแล้วก็หยิบเศษกระดาษขึ้นมา1แผ่น ปริศนาอีกหนึ่งจากแมดดี้ เธอวาดรูปมาให้ฉัน เป็นรูปสัตว์ประหลาดกำลังทำลายเมือง เธมองว่ายังไง?”
              At first she sighed, but then perked up and scibbled on a piece of paper. "One more riddle for Maddie," she gave me a drawing of monster smashing a town. "What's this worth to you?"

              โอคิตตี้! มันง่ายมาก รูปนึงบรรยายได้เป็นพันคำ และที่ที่เหมาะที่สุดในการหาคำล่ะ? ห้องสมุดไง! ฉันกำลังได้คำตอบในขณะที่คิตตี้คำรามเสียงหัวเราะออกมา ฉันจะแสดงให้ดูว่าเธอเอาปริศนาไปจากฉันไม่ได้!
              "Oh Kitty! That's too easy." A picture is worth a thousand words, and where's the best place to find words? The library! I dashed to find the answer as Kitty roared with laughter. I'll show her! She can't out-riddle me!





Madeline Hatter's Diary - Chapter 4

             ป้ายบนประตูที่หอบอกว่าราเวนเป็นรูมเมทฉัน เย้! ฉันรู้สึกเหมือนถูกสาปเลยล่ะ ฉันรอที่จะให้กำลังใจกับเธอด้วยปาร์ตี้น้ำชาแบบแมดดี้ไม่ไหวแล้ว ฉันแกะกาน้ำชาของฉันออกมา และเมื่อราเวนเปิดประตูเข้ามา เธอร้องเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริง ฉันกอดเธออย่างแนบแน่นและน้ำชา1ถ้วยที่ใหญ่กว่า และฉันก็ถามเธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอกลอกตาและเท้าคาง
             The sign on my dorm door said Raven was my roommate. Yay! She's felt so cursed lately, I couldn't wait to cheer her up with an epic Maddie tea party! I unpacked my best tea pots, and when Raven opened the door, she gleefully sang my name! I gave her a big hug and bigger cup of tea, then asked about her day. She rolled her eyes and puffed her cheeks.

             ขณะที่ฉันเดินไปทั่ว เธอก็กำลังทัวร์อยู่กับนักเรียนวายร้ายคนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างยกยอให้เธอเป็นอีวิลควีนคนต่อไป ให้ตายสิ! แต่ฉันรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ราเวนพูดว่า ใช่เลย!” เธอชอบเล่นเกมแบบWonderlandที่เรียกว่าถ้าเราไม่ เป็นเกมคำคล้องจองที่เปลี่ยนบางสิ่งที่ดูทื่อๆธรรมดา กลายเป็นอะไรที่มหัศจรรย์สุดวิเศษไปเลย
             While I was knocking around, she was on a tour with the other fairytale "villains". Apparently they worship that she's the next Evil Queen. What a fairy-fail! But I know what makes Raven say "Hex yeah!" She loves this Wonderland game called "If I Didn't". It's a rhyming game where you imagine how to turn something dully ordinary into something else wonderfully extraordinary!

             ราเวนเริ่มเล่นเกมด้วย ถ้าฉันไม่นอนบนเตียง... ฉันจินตนาการถึงที่ใดสักที่ที่นุ่มและอบอุ่นสำหรับนอน ฉันรู้แล้ว!  ...ฉันก็จะไปนอนบนเขียงอุ่นๆ เป็นตาของฉันแล้ว ฉันอยากทำให้ราเวนยิ้มได้ ใช่แล้ว โง่จริงๆเลย ถ้าฉันไม่เป็นอีวิลควีน... ราเวนนิ่งงงไปเลย ดูเหมือนจะเป็นเพราะเอไม่รู้คำคล้องจองของควีน นาทีผ่านไป เธอพูดออกมาเบาๆว่า ฉันไม่รู้
             Raven started our game with, "If I didn't sleep in a bed..." I imagined someplace soft and cozy to sleep. I know! "... I would nap in warm bread!" It was my turn. I wanted something to make Raven smile. Oh duh, of course! "If I didn't have to be the Evil Queen..." Raven had trouble with this one. Almost like she couldn't find a rhyme for "Queen". After a minute of thinking, she whispered "I don't know."

ใช่แล้ว! ฉันชนะแล้ว นี่ ฉันชนะราเวน มาเล่นกันอีกเถอะนะ
Yes! Victory is mine! "Ha! I win Raven! Let's play again!"

             ฉันอยากจะอยู่ห้องเดียวกับราเวนตลอดไป แต่น่าเสียดายที่ครูใหญ่กริมม์ให้แอปเปิ้ลสลับหอกับฉันมาเป็นรูมเมทราเวนแทน
             I wish I still lived with Raven. Too bad Headmaster Grimm let Apple White switch dorms to be her new roommate.